1.
ผู้คนต้องชื่นชอบเราก่อน เขาจึงจะฟังเราพูด ถ้าผู้คนชื่นชอบเราแล้ว ต่อให้ยังไม่ได้พูดอะไรมาก เขาก็พร้อมที่จะเชื่อเราทุกอย่าง การฝึกทำให้คนชื่นชอบ จึงเป็นทักษะที่สำคัญ จริงใจ อ่อนน้อม เป็นมิตรกับผู้ฟัง ไม่กระโชกโฮกฮาก พูดเรื่องที่ควรพูด ไม่พูดเรื่องที่ไม่ควรพูด เป็นผู้ให้ มีสิ่งดี ๆ มามอบให้เสมอ เอาใจเขามาใส่ใจเรา ไม่โอ้อวดตัวเอง ไม่พูดถึงคนอื่นในแง่ร้าย อารมณ์ดี ...เหล่านี้คือสิ่งเบื้องต้นที่จะทำให้ผู้คน "ชื่นชอบ" เรา
เรื่องที่พูดนั้นสำคัญ แต่วิธีพูดนั้นสำคัญกว่า วิธีพูดนั้นสำคัญ แต่คนที่เป็นคนพูดนั้นก็สำคัญไม่แพ้กัน
2.
โลกนี้คนส่วนใหญ่พยายามทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยากและน่าเบื่อ ดังนั้นสำหรับใครที่อยากเป็นคนส่วนน้อย หน้าที่ของเราจึงคือ "ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย" เขียนเรื่องน่าเบื่อ ให้เป็นเรื่องน่าอ่าน พูดเรื่องเข้าใจยาก ให้เป็นเรื่องเข้าใจง่าย ทำเรื่องซับซ้อน ให้เรียบง่าย จับต้องได้
ลองมองหาสิครับ อะไรในโลกนี้บ้างที่คนชอบทำให้มันยาก ยุ่ง ซับซ้อน จากนั้นหาทางทำให้มันง่ายขึ้น เล่าออกมาให้เรียบง่าย ท่าไม่ต้องยาก ...ใครทำได้ จะมีแต่คนชื่นชม แถมรายได้ยังจะตามมาอย่างไม่ทันตั้งตัว
แน่นอนว่าการทำให้ง่าย มันไม่ง่ายหรอก ...ถ้ามันง่าย เขาก็รวยกันทั้งโลกแล้ว
3.
นานมาแล้ว ผมไปเป็นวิทยากรให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง หลังจากบรรยายเสร็จ ก็เป็นช่วง coffee break มีผู้ฟังท่านหนึ่งเดินเข้ามาคุยกับผม เขาบอกในสิ่งที่ผมประทับใจมาจนถึงวันนี้ ผู้ฟังท่านนั้นบอกกับผมว่า "ผมรู้เลยว่าคุณเตรียมตัวมาอย่างหนัก ถึงจะพูดแล้วฟังเข้าใจง่าย เป็นระบบระเบียบแบบนี้"
ที่ผมประทับใจ ไม่ใช่เพราะพี่ผู้ฟังคนนี้มาชื่นชมผม แต่ประทับใจตรงที่มีคนเห็นคุณค่าของบางสิ่ง ...บางสิ่งที่เบื้องหน้าดูเหมือนไม่มีอะไร แต่เบื้องหลังเต็มไปด้วยความพยายามและการทำงานหนัก ถ้าใครมาเห็นเฉพาะตอนวันสอน ก็คงคิดว่า ง่ายดีจัง พูดไปพูดมา แล้วก็รับตังค์
...แต่เรื่องจริงก็คือ ไม่ง่าย พูดเลยว่าเตรียมตัวหนักมาก
4.
รู้จักอาชีพนักพูดมั้ยครับ? จับไมค์ขึ้นพูดบนเวที มีคนจ้างไปบรรยาย ฟังดูเหมือนง่าย พูดปั๊บรับเงิน เดินออกงาน กลับบ้านโลด อาชีพอะไรว้าาา ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย น่าอิจฉาชะมัด แต่ก่อนผมก็นึกแบบนั้น โคตรสบายเลยอาชีพนี้ พอมาเป็นนักพูดเสียเอง จึงรู้ว่าไม่หมู หลังจากที่ผมบรรยายมาไม่รู้กี่เวที เริ่มจากคนฟังหลักสิบ จนไปถึงหลักหลายพัน วันนี้จึงได้รู้แล้วว่า "ที่ดูง่ายเพราะทำเรื่องยากไว้หมดแล้ว"
ทุกวันนี้สิ่งที่สนุกอย่างหนึ่งในการทำงานของผมก็คือ "การเตรียมสคริปต์ที่ใช้พูดบนเวที" เรียกว่าสนุกตั้งแต่ยังไม่ขึ้นเวที ใช่ครับ นักพูดที่ดีเตรียมทุกอย่างมาจากบ้านแล้ว ไม่ใช่ด้นสดบนเวที ที่เห็นเหมือนพูดเป็นธรรมชาติ แต่มันคือการเตรียมตัวไว้หมดแล้ว
และการจะมีสคริปต์ที่ดีได้นั้น แปลว่านักพูดคนนั้นต้องอ่านเยอะ เห็นเยอะ เจอมาเยอะ มีทั้งประสบการณ์ตรง ประสบการณ์ทางอ้อมจากการฟังหรืออ่านมา ที่สำคัญยังต้องเรียบเรียงความคิดให้เป็นอีกด้วย เพื่อที่จะออกมาเป็นสคริปต์ที่ดึงดูดความสนใจ ได้ประโยชน์ และก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงกับผู้ฟัง
ยังไม่นับทักษะบนเวทีที่ต้องเอาคนดูให้อยู่หมัด จะใช้ไม้ไหนมาสู้กับสมาธิที่แสนสั้นของคนฟัง เรื่องเหล่านี้ต้องฝึกซ้อมมาอย่างดี
...ที่สำคัญ ต้องเคยเจ็บปวดมาหลายเวที กว่าจะหาวิธีเจอ
5.
ทักษะในการพูดนั้นสำคัญมาก แม้แต่คนพูดน้อยอย่างผม ยังต้องยอมฝึก เพราะรู้ว่ามีประโยชน์กับชีวิต ไม่ใช่เพราะเป็นอีกอาชีพ เพียงแต่ผมรู้ว่า "พูดดีมีโอกาส" นั่นคือเรื่องจริง ใครอยากพูดเก่ง ๆ (คนละเรื่องกับพูดมาก) ผมอยากเป็นกำลังใจว่า การพูดบนเวทีเป็นทักษะ และทักษะแปลว่าฝึกได้ ขนาดคนที่วัน ๆ ไม่พูดไม่จาอย่างผม ยังกลายเป็นนักพูดได้เลย
ใครอยากฝึก อาจเริ่มจากลองเขียนบทที่อยากพูด เอาให้อ่านแล้วรู้เรื่องก่อน ยังไม่ต้องดีมาก เอาแค่รู้เรื่อง (ใครที่เขียนหนังสือได้ดี ถ้าเขาฝึกพูดด้วย มีแนวโน้มสูงว่าเขาจะพูดได้ดี เพราะเรียบเรียงความคิดได้ดี) จากนั้นอาจจะลองฝึกพูดหน้ากล้องมือถือไปก่อน ค่อย ๆ ปรับแก้ไป จากนั้นหาเวทีลองพูดหน้าชั้น หน้าห้อง ในที่ประชุม อะไรก็ว่าไป ตอนแรกใจจะเต้นรัว พูดมั่วโคตร นั่นเป็นเรื่องธรรมชาติครับ ผมเองก็เคยเป็น อย่าได้แคร์ จำไว้ว่า "กรรมเป็นของคนฟัง ไม่ใช่ของเรา" (ฮา)
หลังจากที่ฝึกบ่อย ๆ ก็ให้กลับมาประเมินตัวเอง แล้วจะพบว่าเราค่อย ๆ เก่งขึ้นเอง เพราะทักษะนั้นยิ่งฝึก ยิ่งเก่ง ไม่มีวันที่ยิ่งฝึก จะยิ่งแย่ พอเริ่มพูดได้ดีขึ้น เราจะติดใจ สนุกกับการที่คนฟังอินไปกับเรา หัวเราะในสิ่งที่เราเล่า คนฟังได้ประโยชน์จนต้องเดินมาจับมือตอนเราพูดจบ เมื่อนั้นล่ะ เราจะรู้สึกว่าการพูดบนเวทีมันสนุกมาก และเราจะอยากฝึกให้เก่งขึ้นเรื่อย ๆ เราจะเริ่มอ่านเยอะขึ้น ฟังเยอะขึ้น ออกเดินทางเยอะขึ้น เพราะการพูดจะบังคับให้ต้องมีเรื่องมาเล่า ...เราจะเก่งขึ้นแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย เราจะเขียนบทพูดจนเนี้ยบ ซ้อมจนคล่อง แล้วขึ้นไปพูดบนเวทีได้อย่างเป็นธรรมชาติ ...เป็นธรรมชาติจนคนอื่นรู้สึกว่าการเป็นนักพูดนั้นทำไมง่ายจัง
ทีนี้ล่ะ เราก็จะเข้าใจแล้วว่า "อ๋อ...ที่มันดูง่าย เพราะทำเรื่องยากไว้หมดแล้วนี่เอง"
ขอให้โชคดีครับ แล้วผมจะรอฟังคุณพูดบนเวที.
Comments