1.
เมื่อยังอยู่ในวัยคะนอง เราจะมองว่าคนที่คิดไม่เหมือนเรานั้น...ผิด คนที่ใช้ชีวิตไม่สอดคล้องกับความเชื่อเรานั้น...ไม่ได้เรื่อง คนอื่นนั้นโง่ไปหมด มีแต่เราที่ฉลาดอยู่คนเดียว ใจเราแคบเหลือเกิน เที่ยวตัดสินผู้คนไปทั่ว
แต่เมื่อเติบโตขึ้น (ซึ่งไม่ได้หมายถึงอายุ แต่คือเติบโตด้วยความคิด) เราจะ "ตัดสิน" ผู้คนน้อยลง เราจะเข้าใจว่าชีวิตนั้นมีหลากหลายรูปแบบ ไม่มีใครดีกว่าใคร ...เราแค่แตกต่างกัน เป้าหมายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน และถึงแม้จะมีเป้าหมายเดียวกัน แต่หนทางไปสู่เป้าหมายนั้นก็มีอยู่ล้านวิธี
ใครกันจะบอกได้ว่าทางไหนดีกว่า?
2.
ผมคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะหลายเดือนก่อน มีโอกาสนั่งดื่มพูดคุยกับเพื่อนสมัยเรียน หลังจากไม่ได้เจอกันนานมาก บางคนไม่เจอกันเป็นสิบปี พวกเราบางคนอยู่หอพักห้องเดียวกัน กินนอนร่วมกันมาหลายปี แล้วก็แยกย้ายไปมีชีวิตของใครของมัน ...วันนี้เพิ่งได้กลับมารวมกันอีกครั้ง และนั่งอัพเดทชีวิตกัน
คนหนึ่งทำงานประจำที่เดียวตั้งแต่เรียนจบ อีกคนหนึ่งแทบไม่เคยทำงานประจำเลย คนหนึ่งลูกน้องเป็นร้อย ๆ เป็นผู้บริหารบริษัทมหาชน อีกคนหนึ่งตั้งบริษัทของตัวเอง ลูกน้องแทบไม่มี
คนหนึ่งทำกำไรจากหุ้นเดือนเป็นล้าน อีกคนหนึ่งพอใจลงทุนง่าย ๆ ไปช้า ๆ ในกองทุนรวม คนหนึ่งทำงานหนักทั้งวัน ตำแหน่งใหญ่โต อีกคนหนึ่งทำงานสบาย ๆ ขอแค่มีเวลาออกกำลังกาย
คนหนึ่งกำลังจะแต่งงาน อีกคนหนึ่งไม่คิดว่าชีวิตนี้จะมีงานแต่ง คนหนึ่งชอบชีวิตกลางแจ้ง ขี่จักรยานไปทุกที่ อีกคนหนึ่งชอบความหรูหรา ขับรถไม่ต่ำกว่าเบนซ์
วันนี้เราต่างมีชีวิตที่ไม่เหมือนกันเลย แต่กลับลงตัวในแบบของเราเอง ไม่มีใครมีชีวิตดีกว่าใคร ...เราแค่มีชีวิตที่ดีแตกต่างกัน
ถ้าเป็นเมื่อก่อน ตอนยังวัยคะนองกว่านี้ ผมกับเพื่อนอาจถกเถียงกันว่า เฮ้ย! ทำไมไม่ทำแบบนั้น ทำไมไม่ทำแบบนี้วะ
เฮ้ย! ใช้ชีวิตแบบนี้สิ ทำงานแบบนี้สิ ดีกว่าตั้งเยอะ
แต่ครั้งนี้ วันที่แต่ละคนเติบใหญ่ขึ้น เรากลับพบว่า ใจ "กว้าง" มากขึ้น เราเข้าใจว่าแต่ละคนมีที่ทางของตัวเอง แต่ละคนมีรูปแบบชีวิตของตัวเอง จะทำงานอะไรก็ได้ จะใช้ชีวิตแบบไหนก็ได้
...ขอแค่ให้ชีวิตรู้สึกว่ามีความสุขก็พอแล้ว
3.
คืนนั้น นอกจากจะได้พบปะเพื่อนฝูงแล้ว ผมจึงได้บทเรียนบทนี้ติดตัวกลับมาที่บ้านว่า "การตัดสินผู้อื่น ทำให้เราเป็นทุกข์ ทั้งตัวเราและผู้อื่น"
ที่หลายคนทะเลาะกันอยู่ทุกวันนี้ ไม่ว่าจะในโลกออนไลน์หรือโลกจริง ก็เพราะไป "ตัดสิน" คนอื่นว่าผิดที่คิดไม่เหมือนฉัน ทำไม่เหมือนฉัน เป็นไม่เหมือนฉัน
แต่ถ้าเราจะลองผลักผนังใจออกไปให้กว้าง ๆ ขึ้น แล้วทำความเข้าใจว่า เราไม่ใช่ศูนย์กลางจักรวาล เราไม่ใช่ผู้คุมกฎที่จะบอกได้ว่าแบบนี้ถูก แบบนั้นผิด เพราะหนทางชีวิตมีมากมาย เกินกว่าจะตอบได้ว่าทางไหนใช่ ทางไหนผิด
แอ๊ด คาราบาว เคยเขียนเพลง "แง้มใจ" ไว้ว่า "เปิดใจให้กว้าง เราจะได้เป็นสุข ใจมีแต่ทุกข์ เป็นใจคับใจแคบ" ผมว่าเป็นประโยคที่จริงยิ่งกว่าจริง
ขอให้เรามีความสุขบนเส้นทางของตัวเอง ไม่ต้องตัดสินใคร ไม่ต้องฟังคำใครมาตัดสินเรา ...ทำได้เท่านี้ ชีวิตก็จะดีมาก ๆ แล้วล่ะครับ
Comments