1.
พลังของอินเทอร์เน็ตมีมากกว่าใช้เล่นไถหน้าจอไปวัน ๆ เพราะมันใช้ส่งต่อความรู้ความสามารถของเรา ออกไปหาคนจำนวนมากได้ทันที จึงอยู่ที่เราจะใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อทำอะไร? เพื่อเพียงเล่นฆ่าเวลา หรือใช้แบ่งปันความรู้ที่เรามี...เราเลือกได้
คำถามก็คือเราจะใช้อินเทอร์เน็ต ผนวกกับความรู้ความสามารถของเรา ให้เกิดประโยชน์กับผู้คนได้อย่างไร? ใครตอบคำถามนี้ได้ คำตอบนั้นมีมูลค่าประเมินไม่ได้ ...ผมใบ้ให้นิด องค์ประกอบของคำตอบนี้ มีอยู่ 3 อย่างครับ
หนึ่ง อินเทอร์เน็ต ใครเก่งด้านใช้เครื่องมือออนไลน์ ถือว่าสำเร็จไปหนึ่งในสาม แต่ถ้ายังไม่เก่ง ก็ต้องเรียนรู้เพิ่ม เช่น การทำเว็บไซต์ การทำโฆษณาออนไลน์ และอื่น ๆ ที่จะทำให้เราเชี่ยวชาญเครื่องมือออนไลน์เพื่อเข้าถึงผู้คนได้จำนวนมาก และตรงกลุ่ม
สอง ความรู้/ความสามารถของเรา ใครรู้ตัวเองว่าเก่งด้านไหน ถือว่าสำเร็จอีกหนึ่งในสาม แต่ถ้ายังค้นไม่พบว่าเก่งเรื่องอะไร นั่นอาจแปลว่ายังหาตัวเองไม่เจอ ต้องขุดค้นตนเองให้ลึกลงไป แล้วฝึกฝนเพิ่มความสามารถ อาจเป็นทักษะบางอย่าง อาจเป็นงานอดิเรกบางชิ้น อาจเป็นสิ่งที่เรียนจบมา สิ่งเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นเพื่อค้นหาตัวเอง
สาม ให้ประโยชน์กับผู้คนจำนวนมาก ถ้าเรื่องที่เราเก่ง มีคนสนใจเยอะ ก็ถือว่าสำเร็จไปอีกหนึ่งในสาม แต่ถ้าบังเอิญว่าเรื่องที่เราเก่ง ไม่ใช่เรื่องที่หลายคนสนใจ แบบนั้นก็อาจส่งผลกับผู้คนน้อย อย่างไรก็ตาม พลังของอินเทอร์เน็ตจะช่วยให้เราค้นหาคนเฉพาะกลุ่มได้อยู่ดี
ใครบางคนกล่าวไว้ว่า ถ้า "เนื้อหา" คือไฟ "โลกออนไลน์" ก็คือน้ำมัน จุดให้ติด แล้วจะดังจนฉุดไม่อยู่
ยุคนี้เป็นยุคของยักษ์เล็กอย่างพวกเราที่มี "สื่อในมือ" อยู่ที่ใครจะใช้ให้เป็น
2.
อย่างไรก็ตาม "อินเทอร์เน็ต" เป็นเพียงเครื่องขยายเท่านั้น เพราะ "การสื่อสารให้ตรงใจ" นั้นสำคัญกว่า เครื่องมือออนไลน์เพียงช่วยส่งเสริม แต่ "ของที่เรามี" ต้องดีจริง และต่อไปนี้คือ 7 หลักคิดที่จะทำให้เรา "เข้าไปนั่งในใจผู้คน" ผู้คนจะจดจำได้ว่าเราคือคนมีแบรนด์ และคนมีแบรนด์นั้น "บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด" เขาไม่ต้องหางานหาเงิน แต่เงินและงานจะวิ่งมาหาเขาเอง
7 หลักคิดเพื่อ "เข้าไปนั่งในใจผู้คน"
1. จงพูดในสิ่งที่เราเชื่อเท่านั้น เพราะเมื่อเชื่อ ก็ไม่ต้องเสแสร้ง ตัวจริงกับในออนไลน์เหมือนกัน และสำคัญกว่านั้น เมื่อเชื่อในสิ่งที่พูดมากพอ ในที่สุดก็จะมีคนเชื่อเหมือนเรา และก่อเกิดเป็น Community ในที่สุด
2. จงฝึกเป็นนักเล่าเรื่อง อย่าพ่นแต่ข้อมูล การเล่าเรื่องสร้างจินตนาการ และจินตนาการมีพลังมากกว่าที่คิด ยุคนี้จะเล่าเป็นตัวหนังสือ เป็นเสียง เป็นภาพนิ่ง หรือวิดีโอก็ได้ หาให้เจอว่าเราถนัดอาวุธประเภทไหน แล้วฝึกฝนให้อยู่มือ
3. ตอบให้ได้ว่า ฉันส่งมอบ "คุณค่า" อะไรให้ผู้คน? เราอยู่ในยุคเหลือกินเหลือใช้ มีของมีคนให้เลือกมากมาย สิ่งเดียวที่จะทำให้แตกต่าง ก็คือ "คุณค่า" ที่เราส่งมอบให้ผู้คน
4. มีเอกลักษณ์ หาจุดเด่นให้คนจำ ตอกย้ำให้ผู้คนเห็นภาพเราในใจเขา ให้เห็นเป็นภาพเดียวเสมอ ที่สำคัญ จงเป็นตัวเอง อย่าเป็นคนอื่น เพราะคนอื่นเป็นคนอื่นกันหมดแล้ว
5. สร้างความกันเองด้วยการพูดจาภาษาคน อย่าทำตัวเป็นแผ่นพับจากทางการ พูดศัพท์ยาก ๆ จนไม่รู้เรื่อง และอย่าทำเป็นไร้หน้า ไร้ตัวตน เพราะคนเราชอบคุยกับคนด้วยกัน หาโอกาสเล่าเรื่องตัวเองบ้าง เพื่อให้ผู้คนจดจำ
6. ใช้เครื่องมือออนไลน์ให้เป็นประโยชน์ ออนไลน์เสียงดัง แต่ใช้ตังค์น้อย ไม่เคยมียุคไหนที่เรามีช่องทีวีของตัวเองได้ เรื่องนี้ต้องหาความรู้ด่วน อย่ามองข้าม ของดีที่ไม่ดังมีอยู่มากมาย เพราะบกพร่องในจุดนี้ พวกเขาโปรโมทไม่เป็น
7. เป็นผู้ให้ ก่อนจะได้รับ มีความรู้อะไรก็ตาม ให้แบ่งปันออกไปแบบไม่ต้องหวังผลตอบแทน ผู้คนจะจดจำเราในฐานะผู้เชี่ยวชาญเรื่องนั้น (หรืออย่างน้อยก็คนที่ชอบเรื่องนั้น)
แล้วเมื่อนั้นเราจะได้เข้าไปนั่งอยู่ในใจผู้คน.
Comments