เดือนกุมภาพันธ์เป็นเดือนแห่งการประกาศรางวัล
ทั้งรางวัลด้านเพลงอย่าง Grammy Awards และรางวัลด้านหนังอย่าง Academy Awards
เดือนนี้ผมเลยดูหนังฟังเพลงที่เข้าชิงพอสมควร
ส่วนหนังสือผมย้อนกลับไปอ่านหนังสือเก่าในตู้
ซื้อมาดองเอาไว้นานแล้ว ได้เวลาหยิบอ่านเสียที
เดือนนี้ผมชอบหนัง/เพลง/หนังสือ อะไรบ้าง?
ไปดูกันเลยครับ (เผื่อใครจะตาม)
หนังที่ชอบ
1. Green Book
ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมรางวัลออสการ์ปีล่าสุด
ที่บอกตรง ๆ ว่าผมดูเพราะหนังได้รางวัล
ตอนแรกมีอคติคิดว่าคงไม่สนุก
ชายสองคนบุคลิกแตกต่างกัน เดินทางไปด้วยกัน
เรียกว่าเข้าตำราเขียนบท Road Movie
แต่ที่ไหนได้...สนุกมากครับ หนังดีมาก
มีประโยคคมคาย ให้แง่คิด ที่สำคัญดูง่ายด้วย
แถมจบประทับใจ อุ่น ๆ ในความรู้สึก
ซึ่งหาไม่ค่อยได้ในหนังยุคนี้ที่เน้นต่อสู้กับเหล่าร้าย
2. Friend Zone
เรียกว่าผมดูแบบไม่ได้คาดหวังอะไรมาก
หนังเข้าวันวาเลนไทน์ ไปดูกับแฟน ก็แค่นั้นเอง
แต่ปรากฏว่าผิดคาดอีกแล้ว...หนังตลกมากกกกก
เรียกว่าผมกับแฟน (และคนอื่นๆ) หัวเราะลั่นโรง
เป็นมุกตลกแบบไม่สัปดน ไม่หยาบคาย
ซึ่งหาได้ยากในหนังตลกแบบไทย ๆ
ผมชื่นชมนักแสดงหลัก พระเอก/นางเอกของเรื่อง
เพราะทุกนาทีของหนัง มีสองคนนี้ปรากฏตลอด
ถ้าไม่เก่งจริง แบกหนังทั้งเรื่องเอาไว้ไม่อยู่แน่ ๆ
ที่ชอบอีกคนคือนักแสดงสมทบที่ชื่อ ส้วม-สุขพัฒน์
คนนี้แค่เห็นหน้า ก็ฮากลิ้งแล้วล่ะครับ
3. The Affair (TV Series)
หลัง ๆ จะดูหนังสักเรื่อง
ผมใช้เวลาไปกับการหาข้อมูลเยอะมาก
เพราะไม่อยากเสียเวลาไปกับหนังแย่ ๆ
และซีรีส์เรื่องนี้ก็ได้รับคำชมที่ดีมาก
ในเว็บ imdb หลายคนถึงกับให้ 10 เต็ม
บอกว่าเป็นหนังที่วิเคราะห์จิตวิทยาได้ดี
และซีรีส์เรื่องนี้ได้ Golden Globe Awards
จึงไม่มีเหตุผลที่จะไม่ดู
ผมกดดูตอนแรกก็งั้น ๆ ไม่เห็นมีอะไรเลย
นักเขียนหนุ่มใหญ่ไปพักร้อนกับครอบครัว
แล้วเผลอตัวเผลอใจไปสัมพันธ์กับสาวเสิร์ฟ
เรื่องราวธรรมดาและคาดเดาได้ไม่ยาก
(ลองดูวิดีโอตัวอย่าง จะรู้สึกเฉย ๆ มาก)
...แต่ปรากฏว่ายิ่งดู ยิ่งติด หยุดดูไม่ได้
บทสนทนา เรื่องราวที่ผูกขึ้นนั้นยอดเยี่ยมมาก
ยังไม่นับวิธีการเล่าเรื่องที่เล่าจาก 2 มุมมอง
คือมุมมองจากนักเขียนหนุ่ม และสาวเสิร์ฟ
ไม่อยากเล่าอะไรมากกว่านี้ครับ
ใครมีครอบครัว มีลูก อยากให้ดูเรื่องนี้
มันสอนอะไรเราได้หลายอย่างเลย
โดยเฉพาะการค้นหาต้นตอของปัญหา
อย่าดูแค่อาการของโรค แต่ต้องหาสาเหตุ
ปัจจุบันซีรีส์นี้ยังไม่จบนะครับ
ผมเองก็เพิ่งดูถึง Season 2
เพลงที่ชอบ
1. Anna Of The North - Leaning On Myself
สาวนักร้อง/นักแต่งเพลงจากนอร์เวย์ เสียงสวยหม่น
ผมชอบวิธีการร้องแบบ Lay Back หน่วง ๆ
และทำนองที่วนไปวนมาของเพลงนี้ครับ เพลินดี
2.Liam Bailey - Hold Tight
ชอบเสียงร้องของเขา มีความ Soul
แค่ประโยคแรกก็ต้องหยุดเพื่อฟัง
ท่อนฮุคโดดเด่นด้วยโน้ต 3 พยางค์
เนื้อร้องก็เสริมสร้างกำลังใจสุด ๆ
3. Weezer - Happy Hour
ผมเป็นแฟนวงนี้ตั้งแต่ยุคแรก
เพลง Buddy Holly ยังเป็นซาวน์แทร็คแห่งชีวิตผม
แต่หลัง ๆ ก็ห่างหายไม่ได้ฟังพวกเขาอีกเลย
จนกระทั่งมาเจอซิงเกิ้ลนี้...เหมือนได้เจอเพื่อนเก่า
(ล่าสุดปี 2019 พวกเขาเพิ่งออกอัลบั้มใหม่ 2 ชุดรวด)
4.John Mayer - I Guess I Just Feel Like
ไม่มีอะไรต้องบรรยาย สำหรับ John Mayer
สำเนียงแบบที่คุ้นเคยกลับมาหาเราแล้ว
ท้ายเพลง 1 นาทีคือโซโล่กีตาร์ที่ฟังก็รู้ว่าใคร
5.Josie Dunne - Mute
ผมไม่มีข้อมูลอะไรเกี่ยวเธอเลย
google ก็ไม่เจออะไรมาก
แต่เพลงของเธอติดหูตั้งแต่แรกที่ฟัง
และนั่นคือคุณสมบัติของเพลงพ็อพที่ดี
หนังสือที่ชอบ
1.ไอน์สไตน์ : ชีวประวัติและจักรวาล
หนังสือแนะนำ หนา อ่านไม่ง่าย แต่คุ้มที่จะอ่าน ช่วงหลังผมเลือกอ่านหนังสือเล่มหนา (600 หน้าขึ้น) เพื่อฝึกสมาธิให้ตัวเองในยุคสั้น ๆ เร็ว ๆ แบบนี้ จิตจะได้เข้มแข็ง ไม่วอกแวกไปมา
เล่มนี้ซื้อมาดองมาสักพัก อ่านแล้วไม่ผิดหวัง
Walter Isaacson ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้
คือมือวางอันดับหนึ่งด้านหนังสือชีวประวัติ
เล่มที่หลายคนรู้จัก คือ Steve Jobs นั่นเอง
เขาเป็นถึงอดีตบก. TIME และ CEO ของ CNN
เขียนดี เรียบเรียงดี ทั้งที่เป็นงานหินมาก ๆ
ผมไม่คิดว่าจะมีใครเขียนหนังสือประวัติคนสำคัญ
ได้ดีเท่ากับเขาคนนี้อีกแล้ว
(ล่าสุดเขาเขียนประวัติลีโอนาโด ดาวินชี)
ทีมแปลไทยก็แปลดีจนต้องกราบ ละเมียดมาก
เสียดายที่ขายไม่ดี พิมพ์ครั้งที่ 1 เมื่อ 6 ปีก่อน
ป่านนี้ยังมีให้สั่งซื้ออยู่เลย
ที่แปลกคือผมซื้อผ่าน Lazada
ใครสนใจสั่งได้ที่ http://bit.ly/2tDiag4
(เขาไม่ได้จ่าย ผมอยากแนะนำเอง
จะได้ขายดี ๆ และแปลเล่มดาวินชี)
ถามว่าสนุกตรงไหน ก็ตรงชีวิตของไอน์สไตน์นี่แหละ
บอกตรง ๆ ว่าส่วนทฤษฎีของเขา ผมอ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง
แต่ชีวิตของอัจฉริยะคนนี้สิ มีสีสันและมัน (ส์) มาก
ทั้งเรื่องครอบครัวในวัยเด็ก อิทธิพลของพ่อแม่
การเรียน เขาบอกว่าคือระบบทหาร สอนให้เชื่อฟัง
เรื่องสาว ๆ เรื่องความรักที่ไอน์สไตน์ก็ไม่ธรรมดา
เรื่องการเมือง เรื่องศาสนา และอีกหลาย ๆ เรื่อง
ไปจนจวบวาระสุดท้ายของชีวิตเขา
เมื่ออายุมากขึ้น ผมชอบอ่านประวัติผู้คน
ผมอยากรู้ว่าเขาผ่านอะไรมาบ้าง
จุดขึ้นลงของชีวิต เขารับมืออย่างไร
โดยเฉพาะตอนมีเกียรติยศชื่อเสียง
ผมอยากเรียนรู้ตอนที่เขาพลาด
เพื่อที่เราจะได้ระวังตัวไว้ ไม่พลาดซ้ำ
ผมอยากเรียนรู้บทเรียนชีวิตของเขาเหล่านี้
เพื่อประหยัดเวลาชีวิตของผม
ชวนอ่าน ชวนซื้อครับ อ่านยากหน่อยครับ แต่ช่วงที่ตลก ก็ตลกร้ายกาจจนขำพรวดเลยล่ะ
2. Manage Your Day-to-Day
หนังสือที่เขียนขึ้นในปี 2013
ว่าด้วยการป้องกันไม่ให้คนอื่นรบกวนเวลาของเรา
การจัดเวลาให้เราทำงานสร้างสรรค์ได้ในทุกวัน
การจัดการกับข้อมูลที่ล้นทะลักในโลกยุคใหม่
และการใช้เวลาในแต่ละวันอย่างมีโฟกัส
โดยทั้งหมดเป็นทิปส์จากนักคิดนักเขียนนับสิบคน
ซึ่งรวมตัวกันในนามกลุ่ม 99U
ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ทำงานสร้างสรรค์
ชื่อกลุ่มมาจากประโยคดังของ โทมัส เอดิสัน
ที่บอกว่า...
อัจฉริยะประกอบไปด้วย แรงบันดาลใจ 1%
ส่วนอีก 99% คือการลงมือทำ
กลุ่ม 99U ไม่ได้อยากจะนำเสนออะไรใหม่ ๆ
เพราะไอเดียนั้นเต็มล้นโลกไปหมด
แต่พวกเขานำเสนอวิธีให้เราเริ่มลงมือทำเสียที
นั่นจึงกลายเป็นที่มาของหนังสือเล่มนี้
Manage Your Day-to-Day
หรือการจัดการกับงานแต่ละวันของเราให้บรรลุผล
Comments