top of page

จงเป็นตัวเราเอง เพราะคนอื่นนั้นมีคนเป็นกันหมดแล้ว

Updated: Jun 5, 2021

1.

ทุกวันจะมีคนพยายามบอกให้เรานั้นเป็นเหมือนคนอื่น ...ไม่ใช่ตอนโต แต่เริ่มกันตั้งแต่เด็กเลยทีเดียว อย่างเช่น ...ทำไมไม่เอาอย่างลูกบ้านอื่นบ้าง? ...ดูญาติเราสิ เรียนเก่ง จบมาเป็นหมอ ...เรียนให้ได้แบบเขาสิ จะได้รวย ๆ ...หัดดูพี่เป็นตัวอย่างบ้างสิ เรียบร้อย ว่านอนสอนง่าย ...อย่าบ้าให้มันมากนักนะเรา ทำตัวให้มันเหมือนคนอื่นหน่อย ประโยคทำนองนี้ หลายคนต้องเคยได้ยิน ...เราจึงเติบโตขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่ว่า คนอื่นนั้นดี ส่วนฉันมันไม่ดี คนอื่นคือต้นแบบที่ฉันจะต้องทำตาม

ภาพถ่ายโดย Miriam Espacio จาก Pexels

พอโตขึ้นมาเป็นวัยรุ่น เรายิ่งเริ่มไม่กล้าแตกต่าง เพื่อนใส่ชุดอะไร ดูหนังอะไร ฟังเพลงอะไร เราก็เอาอย่างบ้าง ไม่อย่างนั้นจะหาว่าเชย ไม่เข้าพวก เดี๋ยวเพื่อนไม่คบ เรื่องราวทำนองนี้ หลายคนต้องเคยได้พบเจอ ...เราจึงเติบโตขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่ว่า ถ้าอยากอยู่ในสังคมนี้ ฉันควรจะต้องกลมกลืนไปกับคนส่วนใหญ่


...หรือพ่อแม่จะพูดถูก? "ทำตัวให้มันเหมือนคนอื่นหน่อย"

2.

พอโตขึ้นมา เป็นวัยรุ่นอีกนิด ทีนี้เราเริ่มอยากทำตัวแตกต่าง อยากมีอัตลักษณ์ เพราะโฆษณาต่างประโคมโหมบอกเราว่า "จงเป็นตัวเอง" ...ใครจะรู้ว่านั่นเป็นเกมการตลาดที่แยบยล ก็อะไรจะขายดีไปกว่าความเท่ที่รู้สึกว่าฉันแตกต่าง ทั้งที่มัน "แตกต่างเหมือนกัน"

ผลลัพธ์ก็คือ เราขี่จักรยานเหมือนกัน เราวิ่งเหมือนกัน เราเล่นเซิร์ฟสเก็ตเหมือนกัน เราจิบกาแฟดริปเหมือนกัน เราใส่เสื้อ ใส่กางเกง เรากิน เที่ยว ดื่มที่เดียวกัน เราดูหนังอาร์ตเรื่องเดียวกัน และเราก็อ่านหนังสือเท่ ๆ เล่มเดียวกัน

เรื่องราวทำนองนี้ บางคนต้องเคยได้สัมผัส ...เราจึงเติบโตขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่ว่า ฉันว่าฉันก็แตกต่างแล้วนะ แต่ทำไมแตกต่างเหมือนกัน?


พอถึงวัยทำงานทำเงิน เริ่มมีครอบครัว เริ่มอยากรวยอย่างเขาบ้าง เริ่มได้ยินคนนั้นคนนี้บอกวิธีรวยในแบบของเขา รวยด้วยประกัน รวยด้วยธุรกิจเครือข่าย รวยด้วยหุ้น รวยด้วยคอนโด รวยด้วยที่ดิน รวยด้วยการสอน เฮ้! มารวยด้วยวิธีการแบบฉันสิ รวยไว รวยง่าย รวยได้ทุกคน ...แต่สุดท้าย เราก็ไม่เห็นจะรวยแบบเขาสักที


เราจึงเริ่มโรยราด้วยความรู้สึกที่ว่า ...ตกลงชีวิตฉันควรไปทางไหนดี?


นี่ฉันควรเป็นตัวเอง หรือควรเป็นเหมือนคนอื่นดี?


3.

ออสการ์ ไวลด์ นักเขียนระดับโลก ผู้มีชีวิตอยู่เมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว เคยหล่นประโยคหนึ่งไว้ว่า Be yourself; everyone else is already taken” แปลไทยก็ประมาณว่า "จงเป็นตัวเราเอง เพราะคนอื่นนั้นมีคนเป็นกันหมดแล้ว" อธิบายให้เข้าใจอีกทีก็คือ มีแต่เราเท่านั้นที่ไม่เหมือนใคร จะเป็นเหมือนคนอื่นไปทำไม ปล่อยให้คนอื่นเขาเป็นแบบของเขาไปเถอะ


อย่างไรก็ตาม "เป็นตัวเอง" ไม่ได้หมายความว่าจะต้องพยายามทำตัวแตกต่าง ขบถไปเสียทุกอย่าง ไม่ต้องสวนทางไปเสียทุกรอบ ไม่ต้องดื้อรั้นที่จะนอกกรอบตลอด เพราะ "ในกรอบ" ก็คือ "นอกกรอบ" อย่างหนึ่ง

ใครก็ตามที่พยายามเลียนแบบผู้อื่นทั้งชีวิต ทั้งชีวิตของเขา จะมีแต่ความว่างเปล่า ...ขณะเดียวกัน ใครก็ตามที่พยายามแตกต่างทั้งชีวิต ทั้งชีวิตของเขา จะไม่เคยได้เป็นตัวเอง ไม่ว่าจะอ่านหนังสือสักที่เล่ม เข้าคอร์สสัมนาสักกี่คอร์ส พูดคุยกับกูรูสักกี่คน แต่หลักใหญ่ใจความสำคัญที่สุด ที่เราจะต้องค้นหาให้พบก็คือ


"ค้นหาตัวเอง"


4.

ทุกวันจะมีคนพยายามบอกให้เรานั้นเป็นเหมือนคนอื่น ...แต่งตัวแบบนั้นสิ คิดแบบนั้นสิ ทำแบบนั้นสิ พูดแบบนั้นสิ เราตัองใจแข็งพอที่จะฟัง แต่ไม่เชื่อในทันที เลือกเอาสิ่งที่ใช่มาใส่ตัวก็พอ (แม้แต่ตัวหนังสือที่กำลังอ่านอยู่ตอนนี้)


ที่เหลือนอกจากนั้น อย่าไปใส่ใจอะไรให้มาก ก็เหมือนกับที่ คลินท์ อีสวูด พูดไว้ในภาพยนตร์เรื่อง The Dead Pool (1988) ได้อย่างเจ็บแสบว่า "Opinions are like assholes, everybody has one." แปลไทยก็คือ "ความคิดเห็นก็เหมือนรูทวาร ทุกคนมีกันคนละหนึ่ง" อธิบายให้เข้าใจอีกทีก็คือ ไม่ว่าใครต่างก็มีความเห็นด้วยกันได้ทั้งนั้น (แต่ก็ใช้ว่ามันจะดี)

โลกนี้มีวิธีรวยได้ล้านแบบ อย่าเลียนแบบคนอื่น โลกนี้มีวิธีมีความสุขได้ล้านแบบ อย่าเลียนแบบคนอื่น และโลกนี้มีวิถีชีวิตอยู่ล้านแบบ หาสักแบบที่เป็นของเรา อยู่กับตัวเองในความเงียบให้บ่อยขึ้น วางมือถือลง เลิกไถหน้าจอรอดูชีวิตและความคิดเห็นคนอื่น กลับเข้ามาดูชีวิตและความคิดเห็นของตัวเราเอง


"เราคือใคร? เราเหมาะกับอะไร? ที่ทางของฉันอยู่ที่ไหน" คำตอบอยู่ข้างในตัวเรานั่นแหละ เราอยู่กับเรามาทั้งชีวิต ลองคุยกับตัวเองบ้าง แล้วจะค่อย ๆ พบหนทาง

หาที่ว่าง ๆ ขนาดพอดีตัว สร้างจักรวาลของตัวเอง ไม่ต้องไปเบ่งใส่ใคร ไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับใคร จักรวาลใคร จักรวาลมัน ไม่มีใครใหญ่กว่าใคร ไม่มีใครเล็กกว่าใคร เราแค่สร้างจักรวาลของตัวเอง เมื่อพบตัวเอง เราจะพบเส้นทางที่สร้างไว้ในแบบของเรา ไม่ต้องแก่งแย่งแข่งขัน ไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร หรือแม้แต่เหมือนใคร ก็ไม่ได้แปลว่าเลียนแบบ เพราะไม่มีใครเหมือนเราได้ 100% และเราก็ไม่อาจเหมือนใครได้ 100%


ก็เหมือนที่ ออสการ์ ไวลด์ บอกไว้นั่นแหละ "คนอื่น เป็นคนอื่นไปหมดแล้ว ตัวเรา เป็นตัวเองดีที่สุด".


2,838 views1 comment

1件のコメント


Martin Todd
Martin Todd
2021年9月12日

Lovvely blog you have here

いいね!
Home: Blog
Screen Shot 2561-12-19 at 01.56.23.png
Screen Shot 2561-12-19 at 01.56.34.png

กรอกข้อมูล รับฟรี! ebook บนท้องฟ้ารถไม่เคยติด

bottom of page